วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เทคโนโลยี 3G




                 3G หรือ Third  Generation  เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารในยุคที่ 3 อุปกรณ์การสื่อสารยุคที่ 3 นั้นจะเป็นอุปกรณ์ที่ผสมผสาน การนำเสนอข้อมูล   และ  เทคโนโลยีในปัจจุบันเข้าด้วยกัน  เช่น PDA โทรศัพท์มือถือ  Walkman,  กล้องถ่ายรูปและอินเทอร์เน็ต 3G  เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อเนื่องจากยุคที่  2  และ  2.5   ซึ่งเป็นยุคที่มีการให้บริการระบบเสียง   แล ะ  การส่งข้อมูลในขั้นต้น  ทั้งยังมีข้อจำกัดอยู่มาก  การพัฒนาของ  3G   ทำให้เกิดการใช้บริการมัลติมีเดีย  และ ส่งผ่านข้อมูลในระบบไร้สายด้วยอัตราความเร็วที่สูงขึ้น
               ยุค 1G   เป็นยุคแรกของการพัฒนาระบบโทรศัพท์แบบเซลลูลาร์ การรับส่งสัญญาณใช้วิธีการมองดูเลตสัญญาณอะนาล็อกเข้าช่องสื่อสารโดยใช้การแบ่งความถี่ออกมาเป็นช่องเล็ก ๆ   ด้วยวิธีการนี้มีข้อจำกัดในเรื่องจำนวนช่องสัญญาณ   และการใช้ไม่เต็มประสิทธิภาพ   จึงติดขัดเรื่องการขยายจำนวนเลขหมาย    และการขยายแถบความถี่   ประจวบกับระบบเครื่องรับส่งสัญญาณวิทยุกำหนดขนาดของเซล และความแรงของสัญญาณ   เพื่อให้เข้าถึงสถานีเบสได้   ตัวเครื่องโทรศัพท์เซลลูลาร์ยังมีขนาดใหญ่   ใช้กำลังงานไฟฟ้ามาก  ในภายหลังจึงเปลี่ยนมาเป็นระบบดิจิตอล  และการเข้าช่องสัญญาณแบบแบ่งเวลา โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบ 1G จึงใช้เฉพาะในยุคแรกเท่านั้น

               ยุค 2G  เป็นยุคที่พัฒนาต่อมาโดยการเข้ารหัสสัญญาณเสียง โดยบีบอัดสัญญาณเสียงในรูปแบบดิจิตอล ให้มีขนาดจำนวนข้อมูลน้อยลงเหลือเพียงประมาณ 9 กิโลบิตต่อวินาที ต่อช่องสัญญาณ การติดต่อจากสถานีลูก หรือตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่กับสถานีเบส ใช้วิธีการสองแบบคือ TDMA คือการแบ่งช่องเวลาออกเป็นช่องเล็ก ๆ และแบ่งกันใช้ ทำให้ใช้ช่องสัญญาณความถี่วิทยุได้เพิ่มขึ้นจากเดิมอีกมาก กับอีกแบบหนึ่งเป็นการแบ่งการเข้าถึงตามการเข้ารหัส และการถอดรหัสโดยใส่แอดเดรสหมือน IP เราเรียกวิธีการนี้ว่า CDMA - Code Division Multiple Access ในยุค 2G จึงเป็นการรับส่งสัญญาณโทรศัพท์แบบดิจิตอลหมดแล้ว
               ยุค  2.5G    การสื่อสารไร้สายยุค   2.5G  ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากเทคโนโลยี    ในระดับ 2G   แต่มีประสิทธิ  -  ภาพด้อยกว่ามาตรฐานการสื่อสารไร้สายยุค  3G  โดยเทคโนโลยียุค 2.5G สามารถให้บริการรับส่งข้อมูล   แบบแพคเก็ตที่ความเร็วระดับ  20 – 40 Kbps   ในทางปฏิบัติ เทคโนโลยีจีพีอาร์เอสนับเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายในระดับ 2.5G

                ยุค 3G   เป็นยุคแห่งอนาคตอันใกล้  โดยสร้างระบบใหม่ให้รองรับระบบเก่าได้  และเรียกว่า Universal Mobile Telecommunication Systems (UMTS)   โดยมุ่งหวังว่า การเข้าถึงเครือข่ายแบบไร้สาย    สามารถกระทำได้ด้วยอุปกรณ์หลากหลาย  เช่น  จากคอมพิวเตอร์   จากเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ระบบยังคงใช้การเข้าช่องสัญญาณเป็นแบบ   CDMA   ซึ่งสามารถบรรจุช่องสัญญาณเสียงได้มากกว่า  แต่ใช้แบบแถบกว้าง (wideband) ในระบบนี้จึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า WCDMA
                 นอกจากนี้ยังมีกลุ่มบริษัทบางบริษัทแยกการพัฒนาในรุ่น   3G    เป็นแบบ  CDMA  เช่นกัน แต่เรียกว่า   CDMA2000   กลุ่มบริษัทนี้พัฒนารากฐานมาจาก   IS95   ซึ่งใช้ในสหรัฐอเมริกา  และยังขยายรูปแบบเป็นการรับส่งในช่องสัญญาณที่ได้อัตราการรับส่งสูง  (HDR-High Data Rate)   การพัฒนาในยุคที่สามนี้ยังต้องการความเกี่ยวโยงกับการใช้งานร่วมในเทคโนโลยีเก่าอีกด้วย   โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาที่ยังคงให้ใช้งานได้ทั้งแบบ   1G และ 2G    โดยเรียกรูปแบบใหม่เพื่อการส่งเป็นแพ็กเก็ตว่า    GPRS – General  Packet  Radio  Service    ซึ่งส่งด้วยอัตราความเร็วตั้งแต่   9.06,  13.4,  15.6 และ 21.4  กิโลบิตต่อวินาที   โดยในการพัฒนาต่อจาก   GPRS    ให้เป็นระบบ 3G เรียกระบบใหม่ว่า  EDGE - (Enhanced  Data  Rate  for  GSM  Evolution)
เทคโนโลยีในยุคที่    3   เรื่องความเร็วในการรับ  -  ส่งข้อมูล โดยเน้นการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วยความเร็วสูง ทำให้สามารถใช้บริการ Multimedia  ได้อย่างสมบูรณ์แบบ  และ มีประสิทธิภาพแบบมากยิ่งขึ้น เช่น  การรับ - ส่ง  File  ขนาดใหญ่,  การใช้บริการ   Video   Conference,   Download เพลง, ดู TV ในลักษณะแบบ Streaming เป็นต้น
               สำหรับประเทศไทย  ปี  2549  นี้  เป็นปีที่จะพยายามเข้าสู่ยุค 3G  แต่สำหรับต่างประเทศโดย เฉพาะประเทศญี่ปุ่นได้เลยยุค 3G มาแล้ว

ที่มา:http://www.med.cmu.ac.th/eiu/informatics/Literacy/computer/3g/what%203g.html






                                                  


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น